ประวัติและข้อมูลจังหวัดอุดรธานี

ประวัติจังหวัดอุดรธานี
 
         ประวัติการสร้างบ้านแปลงเมืองจาก บ้านเดื่อหมากแข้ง และพัฒนามาเป็นจังหวัดอุดรธานี ในปัจจุบัน เริ่มต้นจาก ร.ศ.๑๑๒ ในสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ในช่วงที่ประเทศสยามถูกคุกคามจากต่างชาติ ต้องเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงโดยบังคับจากสนธิสัญญา จึงมีความจำเป็นที่ต้องวางระเบียบแบบแผนและจัดหัวเมืองชายแดนให้มีความสงบเรียบร้อย หลังจากสงครามปราบฮ่อ พระเจ้าน้องยาเธอ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พระผู้เป็นกำลังสำคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในครั้งนั้น ได้ทรงพิจารณาเคลื่อนกองกำลังทหารและพลเรือนย้ายมาจากเมืองหนองคายมาไว้ ณ บ้านเดื่อหมากแข้ง เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๔๓๖
 
         จังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดหนึ่งในเขตพื้นที่อิสานตอนเหนือที่มีอรยธรรมเก่า่แก่แห่งหนึ่งของโลก จากการค้นพบว่าเคยเป็นแหล่งท่อยู่อาศัยและที่ฝังศพของคนก่อนประวัติศาสตร์ยุคโลหะเมื่อราวห้าพันปีมาแล้ว อุดรธานีจึงมีความเจริญก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีสูงมาแต่โบราณ นอกจากนั้น ยังเป็นพื้นที่ซึ่งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เพราะมีชุมชนต่างๆ เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และที่สำคัญอุดรธานียังเป็นดินแดนแห่งความเจริญรุ่งเรองทั้งทางด้านทรัพยากร ป่าไม้ สวนหินธรรมชาติ น้ำตก หนองน้ำ และเกลือสินเธาว์ รวมไปถึงความรุ่งเรืองทางด้านศาสนา และวัฒนธรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย
 
 
คำขวัญจังหวัดอุดรธานี
 
“กรมหลวงประจักษ์สร้างเมือง ลิอเลื่องแหล่งธรรมะ อารยธรรมห้พันปี ธานีผ้าหมี่ขิด ธรรมชาติเนรมิตทะเลบัวแดง แรงศรัทธาศรีสุทโธปทุมมาคำชะโนด”
 
ตราประจำจังหวัด

ตราประจำจังหวัดอุดรธานี เป็นรูปท้าวเวสสุวณ หรือท้าวกุเวร ประยืนถือกระบอง อันมีความหมายถึง เทพยดาผู้คุ้มครองรักษาประจำทิศอุดร หรือทิศเหนือของภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั่นเอง โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๓  

ต้นไม้ประจำจังหวัด   ต้นรังหรือต้นฮัง (Burmese sal, Ingyin) เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบออกดอกสีเหลือง กลิ่นหอม ช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน  

ดอกไม้ประจำจังหวัด   ดอกทองกวาว (Butea monosperma) ไม้ยืนต้นผลัดใบ ลักษณะเด่นคือ มีดอกใหญ่ รูปร่างคล้ายดอกถั่ว เป็นช่อตามกิ่งก้าน สีดอกที่พบมากคือสีแสด ออกดอกราวเดือนมกราคม-มีนาคม ชาวพื้นเมืองเรียกว่า ต้นจาน  

สภาพโดยทั่วไป  ตั้งอยู่บนที่ราบสูง พื้นที่เอียงลาดลงสู่แม่น้ำโขง ด้านทิศตะวันตกมีภูเขาและป่าติดต่อกันเป้นแนวยาวตามเขตแดนของจังหวัดตั้งแต่อำเภอน้ำโสมลงมาทางทิศใต้ และตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ทางด้านจังหวัดกาฬสินธุ์และสกลนคร มีภูเขาเล็กๆ กระจัดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินปนทราย และดินลูกรัง ชั้นล่างเป็นดินดาน มีเทือกเขาที่สำคัญ คือ เทือกเขาภูพาน แม่น้ำสายสำคัญคือ แม่น้ำสงคราม  

อาณาเขต  
ทิศเหนือ       ติดต่อกับ    จังหวัดหนองคาย
ทิศใต้           ติดต่อกับ    จังหวัดขอนแก่นและกาฬสินธุ์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ    จังหวัดสกลนคร
ทิศตะวันตก    ติดต่อกับ    จังหวัดหนองบัวลำภู  

ขนาดและพื้นที่จังหวัดอุดรธานี   อุดรธานี มีเนื้อที่ ๑๑,๗๓๐.๗๕ ตารางกิโลเมตร หรือ ๗,๓๓๑,๔๓๘.๗๕ ไร่ คิดเป็นร้อยละ ๖.๙๔๘ ของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และร้อยละ ๒.๒๘๖ ของพื้นที่ประเทศไทย นับเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับที่ ๔ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และลำดับที่ ๑๑ ของประเทศ พื้นที่ของจังหวัดอุดรธานี เฉลี่ยสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ ๓๘๕ เมตร  

ประชากร  จำนวนประชากร ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๙ มี ๑,๕๒๗,๕๖๒ คน  แบ่งเป็น ชาย ๗๖๔,๕๗๗ คน และ หญิง ๗๖๒,๙๘๕ คน อำเภอที่มีประชากรมากที่สุด คือ อำเภอเมือง จำนวน ๓๙๙,๙๙๕ คน รองลงมาคือ อำเภอกุมภวาปี จำนวน ๑๒๕,๙๗๖ คน อำเภอที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุด คือ อำเภอเมือง เท่ากับ ๓๖๐ คน/ตารางกิโลเมตร รองลงมาคือ อำเภอกุมภวาปี เท่ากับ ๑๘๗ คน/ตารางกิโลเมตร  

ความหลากหลายของชุมชน  หากนับต่อเนื่องตั้งแต่การก่อตั้งเมืองอุดรธานี เมื่อครั้งยังเป็นบ้านหมากแข้ง เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๓ จนถึงปัจจุบัน อุดรธานีมีความหลากหลายของชาติพันธ์ุต่างๆ ที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบ ได้แก่ ชุมชนลาวพวน ชุมชนจากนครราชสีมา ชาวจีน และชาวญวนหรือเวียดนาม  

การเมืองการปกครอง  อุดรธานีแบ่งการปกครองออกเป็น ๒๐ อำเภอ ๑๕๖ ตำบล และเขตปกครองท้องถิ่นประกอบด้วย เทศบาลนคร ๑ แห่ง เทศบาลเมือง ๒ แห่ง เทศบาลตำบล ๒๙ แห่ง องค์การบริหารส่วนตำบล ๑๕๑ แห่ง อำเภอทั้ง ๒๐ แห่งได้แก่ อำเภอเมืองอุดรธานี อำเภอกุดจับ อำเภอหนองหาน อำเภอหนองแสง อำเภอหนองวัวซอ อำเภอกุมภวาปี อำเภอเพ็ญ อำเภอโนนสะอาด อำเภอบ้านผือ อำเภอไชยวาน อำเภอทุ่งฝน อำเภอสร้างคอม อำเภอศรีธาตุ อำเภอบ้านดุง อำเภอวังสามหมอ อำเภอน้ำโสม อำเภอพิบูลย์รักษ์ อำเภอนายูง อำเภอกู่แก้ว และอำเภอประจักษ์ศิลปาคม