เกษตรผสมผสานเมืองอุดร 2 ไร่ กว่า 3 แสนบาทต่อปี

ผู้หญิงอายุ 51 ปีคนนี้กำลังสร้างรายได้ทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 1000 บาท จากพื้นที่เพียง 2 ไร่เท่านั้น

หากเราอยากมีรายได้จากการทำการเกษตรมาก ๆ หลาย ๆ คนคงคิดว่าต้องมีที่ดินมาก ๆ แต่ความคิดคุณจะเปลี่ยนหากอ่านบทความนี่จบ

วันนี้เราจะพาไปชมแปลงของแม่นวลสา กำยาน เกษตรกรจาก บ้านกู่แก้ว ต.บานจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ย้อนไปหลายปีก่อนคุณแม่นวลสา ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่เกาะสมุย ด้วยความที่อายุมากขึ้นประกอบกับอยากกลับมาอยู่บ้านเกิด จึงได้ใช้เงินเก็บมาซื้อที่ดิน 2 ไร่ ที่ อ.กู่แก้ว

เริ่มแรกได้ปลูกมะนาวแป้น รายได้ช่วงแรกถือว่าดีพอสมควร แต่ต่อมาเมื่อผู้คนมีแนวคิดว่ามะนาวแพงก็ควรปลูกกินเอง หลังจากนั้นราคามะนาวก็ตกต่ำ จนแทบจะเหมือนให้ฟรี แม่นวลสาเลยคิดเสาะหาพืชชนิดใหม่มาปลูกแทนมะนาวประจวบเหมาะกับสำนักงานเกษตรจังหวัดอุดรธานีได้มีโครงการส่งเสริมเกษตรกรให้ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ สำนักงานเกษตรอำเภอกู่แก้วซึ่งเป็นหน่วยงานในพื้นที่ จึงเข้ามาส่งเสริม มีการพาไปอบรม ศึกษาดูงานแปลงเกษตรที่ประสบความสำเร็จแม่นวลสาจึงมีแนวคิดจะทำเกษตรผสมผสาน เพื่อลดความเสี่ยงจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยว โดยพืชหลักที่เลือกนั้นคือไผ่บงหวาน พันธุ์ เพชรน้ำผึ้ง เพราะไผ่นั้นเป็นพืชใช้น้ำน้อย โตง่าย ไม่ค่อยมีโรค และยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง

แม่นวลสา กล่าวว่า ไผ่ปลูกได้ 6 เดือนก็มีหน่อให้รับประทานแล้ว แต่หากจะขายต้องรอให้ถึง 8 เดือนจะเหมาะกว่า เพราะต้นจะโต มีลำเยอะขึ้นสร้างอาหารได้ดี

การเก็บขาย 3 วัน จะเก็บหนึ่งครั้ง ในพื้นที่ 2 ไร่ ปลูก 220 กอ จะเก็บได้ 30-35 กก. เฉลี่ย 3 วันก็จะตกวันละไม่ต่ำกว่า 10 กก. ขาย กก. ละ 50 บาท

ส่วนรายได้อื่นก็มาจากผักที่ปลูกไว้ตามริมรั้ว เช่น ชะอม พริก บางครั้งก็จะปลูกกะหล่ำปลี ตะไคร้ เลี้ยงกบเพื่อขายลูกอ๊อด ปลาหมอเทศ และยังมีการใช้เสียงแมลงดักแมลง (แทนการใช้ไฟแบล็คไลท์/ไฟแมงดา) จะดักได้ 2-4 กก./วัน กก.ละ 200 บาท

ที่แม่นวลสาขายของหมดทุกวันนั้น นอกจากเป็นคำสั่งซื้อจากเพื่อนบ้านในชุมชน ส่วนหนึ่งก็มาจากการเช่าแผงไว้ที่ตลาดละแวกบ้าน ซึ่งจะปลูกเอง ขายเอง กำหนดราคาเอง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางด้วยครับกิจกรรมการเกษตรที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ใช้แรงงานเพียงแค่ 2 คน คือแม่นวลสา และลูกเขยเท่านั้น (แต่จริง ๆ แม่นวลบอกว่าทำคนเดียวก็ไหว) เพราะการให้น้ำ แม่นวลสาลงทุนเจาะน้ำบาดาลเป็นเงิน 25,000 บาท ทำระบบน้ำหยดอีก 10,000 บาท เพียงเท่านี้ก็ลดต้นทุนด้านเวลา และแรงงานไปได้เยอะมาก เหลือเวลาพักผ่อนใช้ชีวีตกับครอบครัวอย่างสบายครับ